เงินดิจิตอลมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบมี "คุณลักษณะ" ที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนต้องทำการศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุนทุกครั้ง == สรุป == เงิน Cryptocurrency ในหลายๆเรื่องยังไม่มีความชัดเจน ต้องใช้ระยะเวลาพิสูจน์อีกนาน แต่เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง คือ BlockChain เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ต้องศึกษา คนที่สนใจจะลงทุนเงินดิจิตอล ต้องศึกษาทีละเล็กทีละน้อย ใช้เงินเพียงเล็กน้อยหาความรู้ไปก่อน อย่าทุ่มหมดตัว ควรแบ่งพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท และให้ระมัดระวังแชร์ลูกโซ่ที่ชอบอ้างถึง Cryptocurrency
และต้องเป็นบริษัทไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และมีโครงสร้างการบริหารจัดการ ระบบงาน ตลอดจนบุคลากรที่เหมาะสมเพียงพอต่อการประกอบธุรกิจ โดยจะต้องมีการเปิดเผยซอร์สโค้ด (Source Code) แบบแสดงรายการข้อมูล ร่างหนังสือชี้ชวน และงบการเงินที่เป็นไปตามเกณฑ์ของ ก. กระบวนการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้ลงทุน เนื่องจากบริษัทที่ออกจำหน่าย ICO นั้นต้องผ่านความเห็นชอบจาก ก. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ มากมาย นักลงทุนที่เลือกลงทุนในลักษณะนี้ จึงถือได้ว่าเป็นผู้ลงทุนรุ่นแรกๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงกว่าปกติ การทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้ผู้ลงทุนนั้นประสบผลสำเร็จและได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ใครจะรู้ว่าในอนาคตเหรียญดิจิทัลนั้นอาจกลายเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ได้รับการยอมรับและสร้างกำไรมหาศาลเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น บทความที่เกี่ยวข้อง Workshop ที่เกี่ยวข้อง - ฟิตเรื่องเงิน เริ่มต้นธุรกิจ - จับจังหวะหุ้นด้วยกราฟพื้นฐาน
เป็นสกุลเงินที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยสกุลเงินนี้จะถูกสร้างโดยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแตกต่างจากเงินตราในปัจจุบันที่ถูกควบคุมโดยธนาคากลางและมีสินทรัพย์ค้ำประกัน เช่น เงินดอลลาร์หรือทองคำ สำหรับเหรียญดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมทั่วโลก เช่น Bitcoin, Ethereum, Omise เป็นต้น ICO แตกต่างอย่างไรกับ IPO? ICO (Initial Coin Offering) เป็นการเสนอขายเหรียญดิจิทัลครั้งแรกแก่ประชาชนซึ่งแตกต่างจากวิธีการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป หรือที่เรียกว่า IPO (Initial Public Offering) เนื่องจากเหรียญดังกล่าวนี้ ไม่ใช่ สิทธิการเป็นเจ้าของ ผู้ลงทุนจึงไม่ได้รับเงินปันผล สิทธิเข้าร่วมประชุม หรือสิทธิอื่นๆ ที่จะได้รับในฐานะหุ้นส่วน สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ได้รับบริการของโครงการนั้นๆ ประโยชน์อื่นๆ ตามที่ตกลง หรือการนำเหรียญนั้นไปขายต่อในมูลค่าที่สูงขึ้น เป็นต้น ทำไมบริษัทต้องระดมทุนด้วย ICO? โดยปกติบริษัทสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนได้ 2 วิธีคือ 1. หาหุ้นส่วน ในช่วงเริ่มต้นสำหรับบริษัทใหม่ที่มีเงิน ไม่เพียงพออาจจะต้องระดมทุนจาก ญาติพี่น้อง บุคคลอื่น หรือที่เรียกว่า Venture Capital ซึ่งเจ้าของเงินทุนจะได้รับหุ้นหรือส่วนแบ่งกำไร และเมื่อธุรกิจดำเนินงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งอาจระดมทุนเพิ่มโดยนำไปสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อจำหน่ายหุ้นแก่ประชาชนในวงกว้าง 2.
เงินกู้ เนื่องจากเป็นบริษัทที่เริ่มดำเนินการ ผลกำไรจึงยังไม่มั่นคง การขอสินเชื่อจึงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก และอาจต้องมีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้บริษัทเกิดใหม่นั้นเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก แต่การระดมทุนด้วยการออกจำหน่ายเหรียญดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่กระทบถึงสิทธิความเป็นเจ้าของ ทำให้ธุรกิจเกิดใหม่ เช่น ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีไอเดียสร้างสรรค์ มีโมเดลธุรกิจใหม่ๆ และมีความต้องการเงินลงทุนนิยมเลือกใช้วิธีนี้ทดแทนวิธีการระดมทุนในรูปแบบเดิม แล้วสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
ถูกมิจฉาชีพล่อลวงให้ลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่โดยใช้เหรียญดิจิทัลบังหน้า มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะกล่าวอ้างถึงกระบวนการที่ดูล้ำสมัย เข้าใจยาก โดยอ้างว่าได้รับผลตอบแทนจำนวนมาก และมักจะนิยมให้ชักชวนเพื่อนเข้าไปลงทุน ถ้าเข้าข่ายลักษณะนี้ โดยส่วนใหญ่มักเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ 2. ถึงแม้ว่าในหลายๆ ประเทศจะอนุญาตให้มีการนำเหรียญไปแลกซื้อสินค้าและบริการ แต่ปัจจุบันเหรียญสกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถนำมาใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากธนบัตรที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย (พระราชบัญญัติเงินตรา) ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา 1. สกุลเงินดิจิทัลนั้นมักเกิดจากบริษัทใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ หรือเป็นธุรกิจใหม่ๆ บนบริษัทเดิม จึงมีความเสี่ยงที่ธุรกิจนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งแตกต่างจากการที่นักลงทุนซื้อหุ้น IPO ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการประกอบธุรกิจมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนมีผลกำไรค่อนข้างสม่ำเสมอและมีโอกาสปิดกิจการน้อยมาก ราคาของเหรียญดิจิทัลนั้นจึงมีความผันผวนและมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในหุ้น 2. ประเมินมูลค่าของธุรกิจหรือโครงการนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นยังไม่มีประวัติย้อนหลัง ซึ่งแตกต่างจากการประเมินมูลค่าหุ้นที่สามารถนำข้อมูลในอดีต ไม่ว่าจะเป็นงบการเงินหรือราคามาใช้คาดการณ์มูลค่าในอนาคตได้ การหามูลค่าที่เหมาะสมของเหรียญนั้นจึงทำได้ยาก ราคาจึงมักเคลื่อนไหวอยู่บนความต้องการซื้อขายของนักลงทุนมากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของโครงการ 3.
เปิดเหตุผลทำไมคนทั่วโลกถึงให้ความสนใจ "เงินดิจิทัล" หรือคริปโตเคอเรนซี และก่อนที่นักลงทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง? สรุปแล้วเงินดิจิทัลน่าลงทุนหรือไม่? และสามารถซื้อขายได้ที่ไหน?
Bitcoin น่าซื้อเก็บไว้หรือเปล่า? เป็นคำถามสั้นๆ ที่ตอบยาก และตอบสั้นๆ ไม่ได้ เพราะมันมีหลายแง่มุมให้ต้องคำนึงและทำความเข้าใจ The Money Case เอพิโสดนี้ เชิญคุณแม็กซ์ ก่อตระกูล และคุณตูน ภาวลิน จาก StockRadars ผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการ Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล มาให้ความรู้และตอบคำถามกันแบบตรงไปตรงมา
ล. ต.
3 ล้านเหรียญต่อเดือน โดยการขายโฆษณาหน้าเว็บไซด์ ผลิตคอนเทนต์ เป็นต้น 8. เงิน Cryptocurrency ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกนานว่าเหมาะสมแก่การลงทุนระยะยาวหรือไม่ เพราะข้อมูลที่มีปัจจุบันยังไม่อาจสรุปได้ว่าการถือครองเงินดิจิตอลจะสร้างความมั่นคั่งให้ผู้ลงทุน 9. ปัจจุบันนี้มี "แชร์ลูกโซ่" จำนวนมากที่เอาคำว่า Blockchain หรือเงินดิจิตอล Bitcoin มาหลอกคน ทำให้ภาพลักษณ์ของเงินดิจิตอลเปลี่ยนไป คนบางส่วนเลยเข้าใจว่า เงิน Cryptocurrency คือ แชร์ลูกโซ่ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ 10. สำหรับคนที่สนใจใน Cryptocurrency ควรศึกษาไปทีละเล็กทีละน้อยก่อน อย่าลงทุนแบบ 100% ทุ่มสุดตัว อาจจะทำให้บาดเจ็บจากการลงทุนได้ 11. พูดถึง Blockchain ไม่จำเป็นต้องพูดถึง Cryptocurrency อย่างเดียว มันพุดถึงได้หลายอย่าง เช่น AI หุ่นยนต์ ซอฟแวร์การจัดการ การบริหาร เรียกว่าอย่าจำกัดความรู้ว่าศึกษาเงินดิจิตอล คือ เรียนรู้เรื่อง Blockchain 12. เรื่องราวของ Blockchain เป็นเรื่องที่เด็กรุ่นใหม่ต้องเข้าใจ ต้องศึกษา เพราะจะเป็นเรื่องใกล้ตัวในอนาคตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 13. เงิน Cryptocurrency ไม่มีการประกันผลตอบแทน แน่นอนว่าทุกการลงทุนไม่มีการการันตีหรือรับประกันว่าไม่ขาดทุนแน่นอน ถ้ามีใครมาเสนอว่าได้รับผลตอบแทนแน่นอน ไม่มีทางขาดทุน อาจจะเข้าข่ายการหลอกลวง 14.
ิ อ่าน นิยาย ฟรี, 2024